queen charlotte เรื่องย่อ Queen Charlotte A Bridgerton Story เรื่องเล่าราชินีบริดเจอร์ตัน (2023)

สารบัญ

queen charlotte เรื่องย่อ Netflix ทำให้ฉันได้หลงเข้าไปอยู่ในอีกซีซั่นของซีรีส์บริดเจอร์ตันที่สุดแสนโรแมนติก ดึงดูดให้ติ่งอย่างเราหลุดไปเข้าไปอยู่ในซีรีส์ เพราะทุกตอนที่นำเสนอมา ไม่มีตอนไหนเลยที่จะสามารถดูข้าม ๆ ไปได้ เพราะดีเทลล์ของฉาก ตัวละคร คอสตูม เพลงบรรเลง คือมันช่างทำให้ซีรีส์บริดเจอร์ตันครบรส และเรียกน้ำตาของเราไปหลายฉาก

โดยที่ผ่านมา 2 ซีซั่นเป็นซีรีส์ “Bridgerton (บริดเจอร์ตัน) วังวนรัก เกมไฮโซ” ที่เล่าเรื่องราวความรักของลูก ๆ ตระกูลของบริดเจอร์ตัน ในรูปแบบของ Gossip Girl ของสังคมชั้นสูง ที่ตีแผ่ โดย Lady Whistledown และในซีซันแรกก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่สำหรับซีซั่นนี้ที่เหมือนจะแยกออกมาจากบริดเจอร์ตัน โดยใช้ชื่อว่า ‘Queen Charlotte: A Bridgerton Story ควีนชาร์ล็อตต์ : เรื่องเล่าราชินีบริดเจอร์ตัน (2023)’

ซึ่งเป็นการเล่าย้อนเรื่องราวความรักในวัยเยาว์ของ “ควีนชาร์ล็อตต์” (ซึ่งในซีซันก่อน ๆ เราก็รู้จักควีนชาร์ล็อตต์ เป็นผู้จัดแจงฤดูกาลหาคู่ และเป็นคู่ปรับกลาย ๆ ของ Lady Whistledown) กับพระสวามี “พระเจ้าจอร์จที่ 3” กษัตริย์แห่งอังกฤษ (ซึ่งตามประวัติศาสตร์ของอังกฤษ “ควีนชาร์ล็อตต์” และ “พระเจ้าจอร์จที่ 3” มีอยู่จริง ๆ นะคะ) และความเป็นไปเป็นมาของตัวละครอีกตัวละครนึงนั่นก็คือเลดี้ แดนเบอร์รี่ เรื่องราวเป็นอย่างไร ตามมาค่ะ จะเล่าให้ฟัง

queen charlotte เรื่องย่อ ซีรีส์ Queen Charlotte A Bridgerton Story (2023) – มีสปอยล์

queen charlotte เรื่องย่อ เปิดฉากมาด้วย Sophia Charlotte of Mecklenburg-Strelitz (India Amarteifio) เจ้าหญิงจากแคว้นเล็ก ๆ ในชนบทของประเทศเยอรมนี ต้องเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่อเข้าพิธีเสกสมรส กับ King George III (Corey Mylchreest) ของประเทศอังกฤษ ทั้งนี้ทั้งนั้นทั้งสองพระองค์ไม่เคยรู้จักและเห็นหน้าคร่าตากันมาก่อน การอภิเสกสมรสครั้งนี้จุดประสงค์ก็เพื่อสานความสัมพันธ์ทางการเมือง และรักษาความมั่นคงของราชวงศ์อังกฤษ (ที่ต้องมีทายาทในรุ่นต่อไปเพื่อสืบบัลลังก์)

เมื่อเดินทางมาถึงประเทศอังกฤษมาไม่ทันจะข้ามวัน เจ้าหญิงชาร์ล็อตต์ก็ต้องตะลึงเพราะเธอต้องแต่งงานทันทีในวันนั้นเลย ถือว่าเป็น Married at First Sight เรียกว่าทำเอาเธองงเป็นไก่ตาแตก อ้าว! แล้วคนไหนล่ะที่จะมาเป็นสามีชั้น ความกังวลที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ก็เริ่มทวีคูณ ถึงขั้นจะปีนกำแพงวังหนีสะให้ได้ และฉากนี้เองนี่แหละที่ทำให้เธอได้เจอชายหนุ่มรูปงาม ที่คุยไปคุยมาเอ้อช่างถูกคอสะงั้น แล้วก็ตามแบบฉบับซีรีส์โรแมนติคทั่วไปที่ชายคนนั้นก็คือว่าที่สามีที่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน “เจ้าชายจอร์จ” นั่นเอง พอรู้แบบนี้แล้วเจ้าหญิงชาร์ล็อตต์ ก็เลี้ยวตัวกลับเข้าพระราชพิธีเสกสมรสทันที

ช่วงระหว่างพิธีนั้นเจ้าหญิงช่างมีความสุขเสียจริง และเธอก็ได้รู้จักกับเลดี้ แดนเบอร์รี่ (Adjoa Andoh) ซึ่งเป็นหญิงสาวผิวสีเช่นกัน เมื่อพิธีเสร็จสิ้น ก็ถึงช่วงเวลาของการส่งคู่บ่าวสาวเข้าหอ รถม้ามุ่งหน้าไปพระราชวัง Buckingham ซึ่งเจ้าชายจอร์จ บอกกับเจ้าสาวของเค้าว่า เป็นของขวัญให้เธอในวันแต่งงานนะจ๊ะ ระหว่างการนั่งรถม้านั้นมันช่างหวานหยดอะไรสะขนาดนั้น แต่มันก็มีความทะแม่ง ๆ อยู่ที่เจ้าชายบอกว่านี่คือบ้านของเธอ เจ้าหญิงก็งงไปสิ บ้านของฉันคนเดียวสะเมื่อไหร่ล่ะ ต้องเป็นบ้านของเราสิ เมื่อรถม้าถึง Buckingham เท่านั้นแหละจากความหวาน ก็กลายเป็นความขมขื่นสะงั้น เอ้า !! เจ้าชายพาชั้นมาส่งเฉย ๆ นะจ๊ะ ไม่ได้จะมาอยู่ด้วย เจ้าหญิงชาร์ล็อตต์ก็งงไปอีกช๊อตนึงสิคะ วันส่งตัวเข้าห้องหอแต่ฉันต้องมาอยู่วังอันใหญ่โตเพียงลำพัง โดยมีบริมสลีย์ (Sam Clemmett) ราชองครักษ์คอยเดินตามหลังไม่เคยห่าง

เจ้าหญิงชาร์ล็อตต์ ทำอะไรเพียงคนเดียว กินข้าวก็กินคนเดียว จะไปไหนก็ไม่ได้ แถมยังไร้วี่แววของสามี แล้วเธอก็คิดขึ้นได้ว่า เอ้ย! เราน่าจะไปหาเพื่อนสักคนดีกว่าที่น่าจะคุยกันรู้เรื่อง จึงได้เชิญเลดี้ แดนเบอร์รี่ เข้ามาพูดคุย คุยกันถูกคอจนสนิทชิดเชื้อ จนได้เป็นที่ปรึกษาและได้รับวางใจ เรียกว่าเป็นพี่เลี้ยงให้เจ้าหญิงในการเป็นภรรยาที่ดีทั้งเรื่องบนเตียงและการใช้ชีวิตประเทศอังกฤษ

แต่เจ้าหญิงก็ยังมีคำถามติดใจว่าสามีหายไปไหน พฤติกรรมแปลกมาก ไปหาหญิงหรือไม่ เมื่อบุกไปบ้านสามีก็เห็นว่า อ้าวไม่มีหญิงอื่นนี่นา แต่สามีขลุกตัวอยู่กับการดูดาว เจ้าหญิงพยายามชวนสามีกลับบ้าน แต่ก็ไม่สำเร็จ ตอนสามีไล่ตะเพิดกลับมาอีก วันต่อมาพระเจ้าจอร์จรู้สึกผิด ก็ได้ส่งหมาน้อยมาให้เป็นของขวัญแทนคำขอโทษ แต่เจ้าหญิงชาร์ล็อตต์ ก็ไม่ปลื้มนัก และยังไม่ให้อภัย

เรื่องราวดำเนินไป พระเจ้าจอร์จ รู้สึกผิดที่ปล่อยให้เจ้าหญิงชาร์ล็อตต์เหงาอยู่คนเดียวมาเนิ่นนาน พระองค์เลยย้ายตัวเองมาอยู่ที่ Buckingham แต่ ๆ แยกห้องนะจ๊ะ เราไม่นอนห้องเดียวกัน และเราจะมีอะไรกันเฉพาะวันคู่ มีเสร็จก็แยกย้ายไปนอนห้องใครห้องมัน ซึ่งเจ้าหญิงชาร์ล็อตต์ก็คิดว่ามันช่างแปลก แต่ก็ดีกว่าอยู่คนเดียว

ความรักของทั้งสองพระองค์ก็เริ่มดีขึ้น ความสัมพันธ์ก็แน่นแฟ้นขึ้น เมื่อถึงพิธีพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของคิงจอร์จที่ 3 จนตอนนี้เจ้าหญิงชาร์ล็อตต์ก็ได้เป็น ควีนชาร์ล็อตต์ อย่างเต็มตัว แต่เธอก็ได้แอบเห็นอะไรในกอไผ่วันราชาภิเษกว่าทำไมหมอต้องมาดูคิงจอร์จก่อนเข้าพิธี เธอได้สอบถามคิง คิงก็ตอบแบบบ่ายเบี่ยง แบบไม่มีอะไร เธอคิดมากไปเอง

แต่เรื่องมันมาแดงก็ในวันที่ทั้งคู่ได้ไปร่วมงานราตรีสโมสรที่บ้านของเลดี้ แดนเบอร์รี่ ในช่วงเวลาร่วมงานทุกอย่างเป็นไปอย่างสวยงาม สายตาทุกคู่จ้องจับมาที่คิงและควีนด้วยความปลื้มปิติ ที่ทั้งคู่เต้นรำ รวมไปถึงสายตาของเหล่าสมาชิกรัฐสภาและเจ้าหญิงออกัสตา (พระมารดาของคิง) ด้วย เมื่อกลับมา Buckingham คิงเองก็ยังรู้สึกสนุก มีความสุข เลยชวนควีนไปต่อกันที่ห้องคิง คืนนี้ควีนได้นอนค้างที่ห้องคิง แต่เธอก็ต้องตื่นมากลางดึก เพราะเสียงอันแปลก ๆ เมื่อตามเสียงไปก็เห็นว่าสามีได้เขียนฝาผนังและพูดคนเดียว อยู่ ๆ ก็วิ่งออกไปข้างนอก แก้ผ้าร้องเรียกหาดาววีนัส ทำเอาควีนตกใจว่าเกิดอะไรกับสามี ในที่สุดเธอก็ได้รู้ความจริงว่าคิงจอร์จ ป่วยเป็นโรคพอร์ไฟเรีย (Porphyria) ที่มีผลต่อระบบประสาท ควีนก็พยายามที่จะประคับประครอง ดูแลคิงไม่ห่าง จนมีลูกด้วยกันถึง 15 คน

เรื่องราวของซีรีส์ไม่เพียงแต่จะเล่าเรื่องของ สมเด็จพระราชินีชาร์ล็อตต์’ กับ ‘สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 3’ เท่านั้นนะคะ ยังมีเส้นเรื่องย่อย ๆ ที่แตกไปเล่าเรื่องราวของบริมสลีย์ ราชองครักษ์ของควีน และเรย์โนลด์ (Freddie Dennis) ราชองครักษ์ของคิง ถึงแม้จะต้องดูแลคิงและควีนตลอดเวลา ก็ต้องหาเวลามาแห่งความสุขมาเติมเต็มชีวิตของเขาทั้งคู่ เรียกได้ว่าสอดแทรกการสนับสนุนกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ LGBTQ ของซีรีส์

และเส้นเรื่องของเลดี้ แดนเบอร์รี่ กับสามีแก่ ลอร์ด แดนเบอร์รี่ ที่ในที่สุดเขาก็เสียชีวิตระหว่างการร่วมรักกับเลดี้ แดนเบอร์รี่ ทำให้เธอรู้สึกปลดปล่อยเป็นอิสระ ในซีซันนี้ เลดี้ แดนเบอร์รี่ ก็ได้เฉิดฉายความฉลาดเป็นกรดของเธอให้เห็นอยู่หลายฉาก

เรื่องราวก็ได้มีการตัดมายุคปัจจุบันของซีรีส์ที่ Lady Violet Bridgerton แม่ของบ้านบริดเจอร์ตัน ก็หัวใจว้าวุ่นต้องการหาคนมาทำสวนของเธอที่แห้งแล้งมาเนิ่นนาน ว่าเรื่องการทำสวนเป็นการพูดเปรียบเปรยความรู้สึกของ Lady Violet ซึ่งจริง ๆ แล้วนั้นเธอหมายถึงอะไรต้องไปดูกันนะคะ

ทำไมต้องดู Queen Charlotte A Bridgerton Story ?

  1. เนื้อเรื่องได้นำเอาเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มาเพิ่มสีสันทำของซีรีส์ ความรักที่โรแมนติกของควีนชาร์ล็อตต์และพระเจ้าจอร์จที่ 3 ที่เป็นคู่รักที่แม้ไม่ได้รักกันมาก่อนแต่ระยะเวลาก็ได้บ่มความรักให้สุกงอม
    ควีนชาร์ล็อตถือเป็นหนึ่งในราชินีผิวสีของอังกฤษคนแรก และท่านก็ได้ประสบความสำเร็จ และได้รับเสียงชื่นชมจากประชาชนเป็นอย่างมาก
    นักแสดงได้แคสติ้งมาอย่างลงตัว โดยเฉพาะ ควีนชาร์ล็อต ลงตัวและใกล้เคียงกับพระสาทิสลักษณ์ของพระนางเอามาก ๆ
    เนื้อเรื่องทำให้เข้ากับสังคมในปัจจุบันในเรื่อง LGBTQ และ Power of woman
    คอสตูมอลังการงานสร้าง
    ฉาก และสถานที่ สวยตามแบบฉบับบริดเจอร์ตัน
    เพลงบรรเลง ออร์เคสตร้า ส่วนตัวแล้วชอบฉากที่ ควีนชาร์ล็อตและพระเจ้าจอร์จที่ 3 เต้นรำที่งานสโมสรบ้านแดนเบอร์รี่ โดยใช้เพลง “If I Ain’t Got You” ที่ได้นำเจ้าของเพลงอย่าง Alicia Keys มาร้องในเวอร์ชั่นนี้ด้วย ซึ่งไพเราะไม่แพ้ original version

ความจริงตามประวัติศาสตร์

ซึ่งอย่างที่เกริ่นไว้แล้วว่า ตัวละครพระเจ้าจอร์จที่ 3 และควีนชาร์ล็อตต์ มีอยู่จริง ควีนชาร์ล็อตต์ ชื่อเดิม ชาร์ล็อตแห่งเมคเลินบวร์ค-ชเตรลิทซ์ (Charlotte of Mecklenburg-Strelitz – 1744-1818) พระเจ้าจอร์จที่ 3 แห่งอังกฤษ ได้รับสมญานามว่า ‘Mad King’ พระเจ้าจอร์จที่ 3 มีอาการป่วยทางจิตที่เรียกว่าโรคพอร์ไฟเรีย (Porphyria) ที่มีผลต่อระบบประสาท จึงทำให้มีสติที่ค่อนข้างแปรปรวน ซึ่งทางพระมารดาของพระเจ้าจอร์จที่ 3 พยายามปกปิดอาการป่วยของพระเจ้าจอร์จที่ 3 เอาไว้ และหาผู้หญิงที่ควรคู่มาให้แต่งงานด้วย

ทางพระมารดาและรัฐบาลอังกฤษจึงต้องร่วมกันหาลิสต์รายชื่อของเจ้าหญิงที่นับถือนิกายโปรเตสแตนต์ (ข้อกำหนดนี้ได้ระบุมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระราชินีนาถแอนน์แห่งบริเตนใหญ่) มาแต่งงานกับเพราะพระเจ้าจอร์จที่ 3 ซึ่งนั่นก็คือ Sophia Charlotte of Mecklenburg-Strelitz ถือได้ว่าพระนางเป็นพระราชินีผิวสีคนแรกของประเทศอังกฤษ ซึ่งตอนนั้นมีพระชันษาเพียง 17 ปี พระเจ้าจอร์จที่ 3 ได้ซื้อคฤหาสน์หลังใหญ่หรูที่ชื่อว่า Buckingham (ซื้อต่อมาจาก Sir Charles Sheffield in 1761) ให้เป็นของขวัญวันแต่งงานแล้วก็ให้กับควีนชาร์ล็อตต์ พระเจ้าจอร์จที่ 3 รักเดียวใจเดียว ไม่มีชายาอื่น ซึ่งแตกต่างจากสมัยพ่อและปู่ที่มีพระชายามากมาย ซึ่งทั้งคู่ก็ได้มีลูกกันถึง 15 คน

ซึ่งการแต่งงานของทั้งคู่ความหนักอกหนักใจของต้องตกไปอยู่ที่ ควีนชาร์ล็อตต์ ที่ต้องประคับประครองสามีที่ป่วย เป็นผู้ว่าราชการแทนสามี และคอยรักษาไม่ให้เกิดการสั่นครอนราชบัลลังก์ แต่สุดท้ายอาการป่วยของพระเจ้าจอร์จที่ 3 ก็ได้กำเริบหนัก จนต้องแยกตัวท่านมาอยู่ที่ Kew Palace พระเจ้าจอร์จที่ 3 ชอบวิทยาศาสตร์และการเกษตรเป็นอย่างมาก ซึ่งท่านก็ได้ลงทำสวนด้วยตนเอง ชาวสวนก็ได้เรียกท่านว่า Farmer Geroge การทำไร่ทำสวนของท่านมีผลผลิตมากมายจนสามารถออกไปขายสร้างรายได้ให้กลับราชวงศ์ได้

พระเจ้าจอร์จที่ 3 ได้เสนอกฏหมายการแต่งงานของราชวงศ์ Royal Marriage ACT. มีใจความว่าเชื้อพระวงศ์ผู้ที่มีอายุไม่ถึง 25 ปีบริบูรณ์ ต้องขออนุญาติในการแต่งงานจากกษัตริย์เสียก่อน ถ้าไม่ได้ขออนุญาติก็ไม่สามารถแต่งงานได้ แต่หากอายุเกิน 25 ปีแล้ว ถ้าไม่มีอะไรตอบกลับจากกษัตริย์ภายใน 1 ปี ก็ถือว่าไฟเขียว แต่งได้แต่งงานได่ แต่หากว่าถ้าทางรัฐสภาไม่ยอมรับ ก็ไม่สามารถแต่งได้ ซึ่งกฎหมายนี้ก็ใช้กันมาจนถึงปัจจุบัน พระเจ้าจอร์จที่ 3 ครองราชย์ยาวนานถึง 60 ปี ตั้งแต่ปี 1760-1820 เป็นช่วงที่โลกใบนี้เกิดเหตุการณ์ใหญ่หลายเหตุการณ์ เช่น สูญเสียบริทิชอเมริกา, การปฏิวัติฝรั่งเศส, การเกิดสงครามนโปเลียน เป็นต้น

เรื่องราวความรัก บนความกดดันของควีนชาร์ล็อตต์ ได้ถ่ายทอดผ่านมินิซีรีส์ Queen Charlotte: A Bridgerton Story ควีนชาร์ล็อตต์: เรื่องเล่าราชินีบริดเจอร์ตัน (2023) ได้อย่างสวยงามและขมขื่น จนต้องหลั่งน้ำตา โดยอิงประวัติศาสตร์อยู่บ้างนั้น ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ต้องตกไปเป็นซีรีส์ในดวงใจของใครหลายคน เนื้อเรื่องยังคงไว้ซึ่งความเว่อวังในแบบฉบับของ บริดเจอร์ตัน รับชมให้อิ่มเอมได้แล้วบน Netflix queen charlotte เรื่องย่อ

บทความที่เกี่ยวข้อง